Share : wiki wiki wiki wiki

Wiki Marketing - Display Network



Display Network คืออะไร ?

     อินเทอร์เน็ตถือเป็นเครือข่ายที่สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ทั่วโลก แต่กลับมีจุดอ่อนที่ทำให้โอกาสในการโฆษณา/ประชาสัมพันธ์ที่ไปถึงกลุ่มลูกค้าได้น้อยมาก หรืออาจไม่ได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายมากสักเท่าไหร่ ทำให้ธุรกิจที่มีเครือข่ายสินค้าคล้าย ๆ กัน หรือมีสินค้าที่เกี่ยวข้องกันต้องหันมาสร้างคอนเน็คชั่นไว้เพื่อแนะนำต่อในโลกของธุรกิจออนไลน์ ซึ่งจะช่วยยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้น 

     แต่หลาย ๆ ธุรกิจเริ่มหันมาใช้โปรแกรม Display Network ที่เป็นเครือข่ายเว็บไซต์และแอพที่เป็นการแสดงโฆษณาแบบรูปภาพบนหน้าเว็บ โดยเครือข่าย Display ของ Google จะครอบคลุมกว่า 2 ล้านเว็บ จากผู้ใช้งานที่เข้าถึงกว่า 90% บนอินเทอร์เน็ต ทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถกำหนดเป้าหมายผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น  

     Display Network คือ ระบบค้นหาแบบเครือข่าย Display กูเกิล ซึ่งเป็นการกำหนดกลุ่มเป้าหมายโดยใช้โฆษณาที่เป็นแบบดิสเพลย์ยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็น แบนเนอร์,คลิป หรือรูปภาพประกอบ ซึ่งเป็นโฆษณาที่จะไปปรากฏอยู่ในเว็บพันธมิตรทำให้มีกลุ่มเป้าหมายที่ใช้งานบนโลกออนไลน์ได้เห็นแบนเนอร์มากกว่า 90%  จะคลิกเว็บไหนก็จะได้เห็นโฆษณาของคุณแน่นอน

 

Google Display Network ทำงานอย่างไร ?

     วิธีทำงานของ Google Display Network นั้น โดยทั่วไปถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการหากลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม เช่น เว็บไซต์ที่พวกเขาชอบดู ความสนใจส่วนตัว เพศ อายุ การศึกษา สถานที่ หรือ แม้กระทั่งสภาพอากาศก็ตามที วิธีการทำงานของมันก็คือ คุณสามารถนำโฆษณาในหลากหลายรูปแบบ ไปฝากไว้กับเว็บไซต์ ที่เป็นพันธมิตรกับ Google ซึ่งคุณสามารถกำหนดเว็บไซต์เองได้ด้วย โดยในการที่จะลงโฆษณานั้นเราต้องดูด้วยว่าสินค้าของเราเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับอะไรเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับอะไร เพราะจะทำให้เราเลือกเว็บไซต์ที่จะไปลงโฆษณาได้ตรงตามความต้องการทั้งของเราเอง และผู้ที่จะเข้ามาดูหรือซื้อโฆษณาของเราอีกด้วยและจะทำให้สินค้าของเรามีชื่อเสียงรวดเร็วและเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายอีกด้วย ซึ่งถามว่าการลงโฆษณาแบบ Google Display Network สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไรบ้าง รายละเอียดมีดังนี้

Catagories – เราสามารถเลือกประเภทของเว็บไซต์ตามความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้เลย เช่น เว็บไซต์เกี่ยวกับรถ , เว็บไซต์ความสวยความงาม ฯลฯ

Demographic – สามารถกำหนดข้อมูลด้านประชากรได้ ไม่ว่าจะเป็น เพศ อายุ ที่ต้องการให้เห็นโฆษณาของคุณ

Location – กำหนดพื้นที่ ที่ต้องการแสดงโฆษณา เช่น คอนโดย่านสาทร ก็ตั้งให้นำส่งโฆษณาถึงคนละแวกใกล้เคียง

Date and Time – สามารถกำหนดวันและเวลาของการนำส่งโฆษณาได้ เช่น เปิดให้โฆษณาทำงานทุกวันเวลา 8.00 – 18.00 น.

Frequency – ความถี่ของโฆษณา เช่น ให้กลุ่มเป้าหมายเห็น Banner ของเราวันละ 1 ครั้ง เพื่อไม่ทำให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความรำคาญมากจนเกินไป

 

เป้าหมายการทำ Display Network ให้น่าสนใจ

Placement Targeting : เป็นการทำ Display Network แบบเจาะจงเว็บเป้าหมาย อาจเป็นเว็บของฐานกลุ่มลูกค้าเพื่อแสดงโฆษณา หรือจะเลือกเว็บที่มีการเข้าถึงเป็นจำนวนมากเพื่อเป็นการทำ Branding ก็ได้เช่นกัน  

Topic Targeting : การเลือกกลุ่มเป้าหมายหมายตามหัวข้อ ด้วยการทำ Display Network  หากเป็นสินค้าเป็นประเภทครีมบำรุง ก็จะสามารถกำหนดการแสดงโฆษณาไปยังกลุ่มเว็บเกี่ยวกับข้องกับความสวยความงาม โดยเป็นการเลือกแบบ Random ซึ่งไม่สามารถเลือกเว็บได้    

Remarketing : การทำ Display Network แบบติดตาม ก็เพื่อเป็นการดึงให้ลูกค้ากลับมา หากผู้เยี่ยมชมได้เข้าไปในหน้าเว็บที่มีการฝังโค้ดของ Remarketing ซึ่งบราวเซอร์จะจดจำ Cookie และหากผู้ใช้เข้าไปยังเว็บที่เป็นเครือข่ายของgoogle ก็จะทำให้โฆษณาของเว็บที่มีการการฝังโค้ดของ Remarketing นั้น ๆ ถูกนำมาแสดงให้ผู้ใช้เห็นทันที

Keyword Contextual Targeting : การทำ Display Network บนเว็บ โดยใช้คีย์เวิร์ดเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นการกำหนดให้ทำโฆษณาไปแสดงในเว็บที่มีคีย์เวิร์ดใดคีย์เวิร์ดหนึ่งๆ หากมีผู้ใช้ค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดนั้นและได้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บที่เป็นเครือข่ายของกูเกิล ซึ่งมีคีย์เวิร์ดนั้น ๆ อยู่ในเว็บ ก็จะส่งผลให้ผู้ใช้คนนั้นเห็นโฆษณาของคุณ

 

ประโยชน์ของ Google Display Network

     สร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ ด้วยการนำโฆษณาของเราไปติดในเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้ โดยคิดค่าใช้จ่ายเป็นแบบ Cost Per Impression ( CPM ) หรือ Cost Per Click ( CPC ) ก็ได้ ซึ่งเป็นราคาที่เราสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ด้วยตัวเราเอง ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่า เราจะนำโฆษณาของเราไปปรากฏในเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาในเรื่องแบบใดบ้าง

  • ค้นหาลูกค้าใหม่หรือดึงดูดลูกค้าที่มีอยู่โดยใช้กลุ่มเป้าหมาย

     กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันและกลุ่มเป้าหมายที่มีแผนจะซื้อช่วยให้คุณกำหนดเป้าหมายไปยังผู้ที่มีแนวโน้มที่จะสนใจผลิตภัณฑ์มากที่สุด ซึ่งจะทำให้พบผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ารายใหม่ๆ นอกจากนี้ คุณยังใช้ข้อมูล เช่น รายการรีมาร์เก็ตติ้งเพื่อช่วยดึงดูดผู้ที่เคยเข้าชมเว็บไซต์อีกครั้งได้ด้วย

  • เพิ่ม Conversion ด้วยระบบอัตโนมัติ

     การกำหนดเป้าหมายอัตโนมัติจะช่วยให้คุณได้รับ Conversion มากขึ้นด้วยการหากลุ่มเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพสูงโดยพิจารณาจากกลุ่มเป้าหมายที่มีอยู่และหน้า Landing Page เมื่อใช้การเพิ่มประสิทธิภาพโดยอัตโนมัติไปเรื่อย ๆ Google Ads ก็จะเรียนรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายใดเหมาะกับคุณ การเสนอราคาอัตโนมัติจะปรับราคาเสนอโดยอัตโนมัติเพื่อช่วยให้คุณได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนตามที่คาดหวัง ส่วนแคมเปญสมาร์ทดิสเพลย์จะรวมจุดเด่นของการกำหนดเป้าหมาย และการเสนอราคาอัตโนมัติ รวมถึงครีเอทีฟโฆษณาที่ดีที่สุดเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่ม Conversion ใน Google โดยการที่เราเอาภาพแบรนด์เนอร์ของเราไปแสดงไว้บนเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เป็นพันธมัตรของ Google ( กูเกิล ) โดยเราสามารถที่จะกำหนดผู้ที่จะเห็นโฆษณาของเราได้ตามดีมอกราฟฟิกเช่น เพศ ช่วงอายุ จังหวัด และเวลา โดยข้อดีของการลงโฆษณาแบบ GDN ( จีดีเอ็น ) ก็คือเราสามารถเลือกรูปแบบของการทำโฆษณาได้หลายรูปแบบ โดยเราสามารถเลือกเว็บไซต์ที่เราต้องการในการทำโฆษณา หาก

 

สรุปการทำ Display Network  

     เพราะคนส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการท่องโลกอินเทอร์เน็ต ทำให้การทำโฆษณาในรูปแบบ Display Network เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแบรนด์ที่ช่วยตอบโจทย์อย่างมาก และยังสามารถช่วยทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักง่ายขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เห็นโฆษณาแบนเนอร์ โดยผ่านทางโฆษณาในช่องทางออนไลน์ และการใช้ภาพโฆษณาที่น่าสนใจ ซึ่งจะช่วยสร้างการจดจำได้ดีกว่า 

     การทำ Display Network ช่วยสร้างแบรนด์ให้ชัดเจน และยังช่วยทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์เพื่อกระตุ้นความจำให้ลูกค้า อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะทำให้เกิด Conversion มากขึ้นอีกด้วย

Created BY : SEOlnwza

phone line chat_facebook