การทำเว็บไซต์ให้ดีขึ้น คืองานที่เหล่านักทำ SEO ต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อทำเว็บไซต์ให้ดีขึ้นให้ได้ แต่ก็มีเหตุผลที่มาที่ไปเช่นกัน ที่ทำไม ต่อให้เราทำสักเท่าไหร่ก็ยังไม่ดีขึ้น คำตอบนั้นอยู่ที่นี่แล้ว
การจะทำเว็บไซต์ให้ประสบความสำเร็จได้นั้น คือหน้าที่สำคัญอย่างมาก ของคนทำเว็บไซต์หรือคนทำ SEO ซึ่งการทำ SEO จำเป็นต้องใช้เวลา เพื่อทำให้เห็นผลได้ง่ายขึ้น รวมถึงต้องใช้พลังงานและการทำงานอย่างหนัก เพื่อทำให้เกิดผลงานที่ดีและต้องหมั่นทำอยู่สม่ำเสมอ ไม่สามารถหยุดได้ เพราะถ้าคุณหยุด สิ่งที่คุณทำมาทั้งหมด ก็จะหายไปทันที ด้วยเหตุนี้ หลายๆ ครั้งที่ทำเว็บไซต์ แล้วไม่เกิดผล หรือเว็บไซต์นั้นไม่ดีขึ้นมา ก็เพราะว่าคุณอาจจะทำแล้ว ตกอยู่ในเหตุผลเหล่านี้หรือเปล่า?
1. เว็บไซต์คุณช้า
และนี่คือสิ่งที่ส่งผลต่อการทำเว็บไซต์ให้ไม่ได้ผล นอกจากการทำ SEO แล้ว ก็คือการที่เว็บไซต์ของคุณเองนั้น มีการเปิดเว็บไซต์ที่ช้าผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งในทุกวันนี้ Google ให้คุณค่าอย่างมากกับการโหลดของเว็บไซต์ต่างๆ ด้วยเหตุนี้ ถ้าเว็บไซต์ของคุณนั้นมีอาการที่โหลดช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บนมือถือ ย่อมทำให้มีผลต่อ SEO ที่คุณทำทันที เพราะ Google จะปรับลดอันดับของคุณใน Google Search ทันที ดังนั้นเพื่อที่จะแก้ปัญหานี้ คุณควรแก้ปัญหาโดยการสร้าง Coding Performance ของเว็บไซต์คุณเอง ให้มีความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างมาก ถึงจะเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด
2. ไม่ได้ Optimised สำหรับ SEO
การที่เว็บไซต์ของคุณนั้น ไม่ได้ผลในการทำงาน หรือไม่สร้างประสิทธิภาพต่างๆ ขึ้นมา อาจจะเป็นเพราะเรื่องง่ายๆ อย่างเช่น การที่คุณไม่ได้สร้างเว็บไซต์นั้นให้เหมาะกับการทำ SEO ต่างๆ ขึ้นมา ทำให้การที่จะ Optimised SEO ในเว็บไซต์ เป็นเรื่องยากอย่างมาก ซึ่งจะใช้เวลานานกว่า ที่จะทำให้เว็บไซต์นั้นได้ผลต่อ SEO ที่ทำขึ้นมา สิ่งที่คุณต้องทำเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณได้ผลขึ้นมา คือการสร้างเว็บไซต์หรือปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้เหมาะสมต่อการทำ SEO ขึ้นมาก่อน เพื่อจะทำให้ SEO ได้ผลขึ้นมาหลังจากนั้น
3. Content แย่
ไม่ว่าคุณจะพยายามทำให้ Content ต่างๆ นั้นดีขึ้นมาสักแค่ไหน แต่ปรากฏว่าก็ไม่ดีขึ้นสักที ซึ่งสุดท้ายแล้วการที่ SEO นั้นไม่เกิด อาจจะเพราะที่การทำ Content เองก็ได้ นั้นคือการที่คุณไม่ได้สร้าง Content ที่ดีพอต่อกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ขึ้นมา หรือมี Content ที่มีคุณภาพ ทำให้สิ่งที่คุณทำมา นั้นกลายเป็นไม่ได้ผลอย่างทันที ด้วยระบบของ Google ที่ฉลาดมากขึ้นในตอนนี้ สามารถหาได้ว่า Content ที่คุณทำนั้นมีคุณภาพที่ดีพอหรือยัง และเหมาะสมไหมที่ Google จะเอาเนื้อหาที่คุณทำนั้น เข้ามาจัดอันดับใน Google Search เพื่อที่จะแก้ปัญหานี้ คุณควรเลิกคิดถึงปริมาณ Content ที่ทำ และหันมาสนใจในคุณภาพของ Content ด้วยการใช้รูป วิดีโอ และ info graphic ต่างๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้มากขึ้น
4. ใส่ Keyword ซ้ำๆ
เทคนิคการทำ Keyword ซ้ำๆ เป็นเทคนิคที่นิยมอย่างมากในอดีต คือนิยมทำกันจนทำให้บทความเรื่อง Content นั้นไม่สามารถอ่านรู้เรื่องได้ เพราะมีแต่ Keyword ต่อๆ กัน แต่ในปัจจุบันนี้ทาง Google นั้นไม่อนุญาตให้ทำการสร้างบทความที่มี Keyword ซ้ำเหล่านี้แล้ว และยิ่งทำ ก็ยิ่งมีผลทำให้อันดับของ Google นั้นไม่ดีขึ้น เพราะ Google มองว่าเป็นเนื้อหา ที่ไร้คุณภาพ
5. เนื้อหาทำมาซ้ำ
อย่างที่บอกไปว่าการทำ Content ไม่ใช่เรื่องของปริมาณที่จะทำให้ SEO ที่ทำขึ้นมานั้นได้ผล แต่เป็นที่คุณภาพ หลายๆ ครั้ง สิ่งที่เกิดขึ้นคือการที่ นักการตลาด กลัวว่าเนื้อหาที่ตัวเองทำจะมีน้อยเกินไป หรือทำให้เนื้อหาดูไม่มากพอ เลยทำการสร้างเนื้อหานั้นซ้ำๆ ในเว็บไซต์ ด้วยเหตุนี้ทาง Google จะมองว่าคุณพยายามจะโกงการแสดงผล SEO นั้นๆ และผลที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะมีความเลวร้ายโดยที่ Google อาจจะลงโทษคุณอย่างทันที
และนี่คือ เหตุผลที่ทำ SEO สักเท่าไหร่ เว็บไซต์ก็ยังไม่ดีขึ้น นี่เป็นสิ่งที่เหล่านักทำ SEO ต้องระวังและให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก สามารถติดตาม Content ดีๆ เกี่ยวกับการทำ SEO ได้ที่ seolnwza
ขอขอบคุณข้อมูลจาก marketingoops
อ่านบทความที่น่าสนใจ